Health

  • ผมร่วง เพราะอะไร และรักษาได้อย่างไร
    ผมร่วง เพราะอะไร และรักษาได้อย่างไร

    ผมร่วง ผมขาดง่าย ผมไร้น้ำหนัก หรือขาดความเงางาม อาจเป็นปัญหาทั่วไปที่พบได้ของคนทุกวัยตามปกติ แต่สำหรับสาเหตุผมผมร่วงในวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ แต่กลับมีปัญหาเส้นผมใกล้เคียงคนอายุมากได้ อาจมีสาเหตุจากพันธุกรรม สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน แต่สามารถดูแลรักษาอาการผมร่วงเองได้หลายวิธี

    ผมร่วง เพราะอะไร

    เส้นผมของเราประกอบด้วยเซลล์ที่ตายแล้ว ไม่มีชีวิต ไม่มีความรู้สึก และงอกออกมา ปกคลุมหนังศีรษะ ผมของคนเราจะมีการงอกทดแทนใหม่อยู่ตลอดเวลาในขณะที่ผมเก่ามีการหลุดร่วงออกจากหนังศีรษะก็จะมี ผมใหม่เกิดอยู่ข้างๆแทนที่และงอกชดเชยเส้นที่หลุดไปในวัยหนุ่มสาวเส้นผมจะยาวออก 2.8 มม. ต่อสัปดาห์ ต่อเมื่ออายุมากขึ้นประมาณ 40-45 ปี การงอกของเส้นผมจะลดลง คือยาวออกเพียง 1.82 มม. ต่อสัปดาห์

    โดยปกติเส้นผมของคนเราจะมีทั้งหมดประมาณ 100,000-150,000 เส้น และจะหลุดร่วงไปประมาณวันละ 50-100 เส้น  เส้นผมบนหนังศีรษะที่หลุดร่วงไปตามปกติจะเป็นเส้นผมในระยะ Telogen แต่ถ้าวันไหนสระผม อาจจะมีจำนวนที่ร่วงเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าได้ การงอกและการเจริญเติบโตของผมมีรอบระยะเวลาที่จำกัดคือ ตั้งแต่ผมเริ่มงอกจนกระทั่งหลุดร่วงไป จะใช้เวลาประมาณ 3-5 ปี หรือประมาณ 1,000 วัน เรียกว่า 1 รอบ แล้วหลังจากนั้น รากผมจะหยุดชั่วคราว ประมาณหลายสัปดาห์กว่าจะมีการสร้างเส้นผมขึ้นใหม่ แต่เมื่ออายุมากขึ้น จนถึงวัยชรา รากผมบางส่วนจะมีการเสื่อมสภาพไป และหยุดการทำงาน จึงทำให้เส้นผมมีจำนวนน้อยลง

    ดังนั้นหากพบว่ามีผมร่วงมากกว่า 100 เส้นในแต่ละวัน ก็หมายความว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ หรือการร่วงไม่มากแต่มีลักษณะผมร่วงเป็นบางบริเวณ เรียกว่า “ผมร่วงเป็นหย่อม” ก็ถือว่าเป็นโรคของผมเช่นกัน ควรจะรีบหาสาเหตุ และรักษาให้หายโดยเร็วที่สุดมิฉะนั้นอาจทำให้ผมร่วงมากขึ้น จนผมบางลง หรือศีรษะล้านในที่สุด

    สาเหตุของผมร่วง

    เแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัย

    1. ปัจจัยภายในร่างกาย

    • เกิดจากกรรมพันธุ์

    คุณอาจจะพบบ่อยว่าคนไหนที่มีผมบาง หรือศีรษะล้าน ก็มักจะมีคนในครอบครัวที่เป็นด้วย มักจะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนมากมักเริ่มมีผมร่วง เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น หลังจากนั้นก็จะร่วงจนผมบางลงเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้น ผู้ชายมักเริ่มมีผมบางที่บริเวณกลางศีรษะก่อน แต่ผู้หญิงมักมีผมบางทั่วศีรษะ สาเหตุเกิดจากฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่า แอนโดรเจน (androgen) ซึ่งฮอร์โมนนี้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงวงจรของผมในระยะ anagen ทำให้มีอายุสั้นลงจึงทำให้เส้นผมในระยะสุดท้าย telogen มีมากขึ้น ผมจึงร่วงมากขึ้นและในที่สุดก็จะทำให้รูขุมขนบางแห่งหายไป จึงไม่มีผมใหม่งอกขึ้นทดแทน ทำให้ผมบาง หรือศีรษะล้านนั้นเอง

    • เกิดจากฮอร์โมน

    โรคของต่อมไร้ท่อ ทำให้ผมร่วงทั่วศีรษะหรือร่วงเป็นหย่อมๆ ได้ เช่น โรคของต่อมธัยรอยด์(Thyroid), ต่อมใต้สมอง(Pituitary)หรือ คนที่เป็นเบาหวาน ซึ่งควบคุมไม่ได้ก็อาจมีร่วงได้

    ฮอร์โมน DHT ( Dihydroxytestosterone) เป็นส่วนหนึ่งของโฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ที่มีหน้าที่กระตุ้นไขมันที่บริเวณรากขนหรือรากผม ทำให้เส้นผมมันเป็นเงางาม ไม่แห้งกระด้าง แต่หากกรณีที่มีDHT มากเกินไป จะมีผลให้วงจรชีวิตของเส้นผมเร็วขึ้น ผมอายุสั้นลง และหลุดร่วงง่ายขึ้น และเมื่องอกขึ้นใหม่ ก็จะมีขนาดเล็กลงบางลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่งอกอีกเลย ทำให้เกิดปัญหาซึ่งเกิดได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่พบในผู้ชายมากกว่า

    • เกิดจากความเครียด พักผ่อนน้อย

    จากความเครียด มีผลทำให้การทำงานของฮอร์โมนผิดปกติ ซึ่งมักจะกระตุ้นวงจรชีวิตของเส้นผมให้สั้นลง มีผลทำให้เกิดผมร่วงทั่วศีรษะ ( Telogen Efflutivum ) หรือ ผมร่วงเป็นหย่อม ( Alopecia areata) ได้

    • เกิดจากความเจ็บป่วย

    หลังจากความเจ็บป่วย เช่น มีไข้สูง ได้รับการผ่าตัด เสียเลือดมาก ช๊อค ขาดสารอาหาร หรือหลังคลอดบุตร จะทำให้ผมในระยะ anagen เปลี่ยนเป็นผมในระยะ telogen จำนวนมาก หลังเกิดความผิดปกติต่างๆในร่างกาย ผมจะร่วงมาก หลังจากผ่านเหตุการณ์ไปแล้วประมาณ 2-4 เดือน ผมร่วงชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องรักษาเพราะผมจะงอกใหม่ขึ้นมาทดแทนภายใน เวลาประมาณ6 เดือน แต่หากเกิดภาวะผิดปกติซ้ำอีก อาจทำให้ต่อมผมบางส่วนถูกทำลายไป ทำให้ผมขึ้นใหม่น้อยกว่าเดิมได้

    2. ปัจจัยภายนอกร่างกาย

    • เกิดจากยา เคมีบำบัด และสารพิษ

    ยาหลายชนิดที่ทำให้ผมร่วงได้ เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยาอื่นๆ(ดูในตาราง) หรือการได้รับสารพิษ เป็นต้น ทำให้ร่วงได้มากถึงวันละ 100-1,000 เส้น เกิดจากการที่ผมในระยะ anagen หยุดการเจริญเติบโตทำให้เส้นผมขาดและหลุดร่วงไป ผมจึงร่วงเป็นวันละมากๆได้เพราะเส้นผมปกติจะอยู่ในระยะ anagen ถึงร้อยละ 90 ของผมทั้งหมด ผมมักจะเริ่มร่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นชัดประมาณ 1-2 เดือน หลังได้รับยา ผมอาจร่วงจนหมดศีรษะได้ แต่หลังจากหยุดยา ผมก็จะขึ้นใหม่ได้เอง โดยไม่ต้องรักษา

    • การขาดสารอาหารหรือแร่ธาตุ

    การขาดโปรตีนอย่างเดียว(Kwasshiokor) หรือการขาดแร่ธาตุต่างๆ เช่นเหล็ก สังกะสี จะทำให้มีผมร่วงทั่วศีรษะได้ แต่ถ้าขาดโปรตีนเป็นช่วงๆผมอาจจะไม่ร่วง แต่มีสีจางสลับกับสีเข้มได้

    • การทำผม การมัดผม ดึงรั้งผม

    บริเวณหน้าผาก หรือเกล้าผมบ่อย เป็นประจำ ทำให้ผมบริเวณนั้นร่วงง่ายขึ้น และผมบางลง ถ้าทำอย่างนั้นเป็นเวลานานมาก ผมบริเวณนั้น อาจจะไม่งอกขึ้นอีกเลย

    • จากการติดเชื้อ

    เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา-โรคกลาก, เชื้อแบคทีเรีย เช่น ฝี , รูขุมขนอักเสบ, วัณโรค, โรคเรื้อน, ซิฟิลิส ระยะที่ 3 , เชื้อไวรัส เช่น อีสุกอีใส งูสวัด, เชื้อโปรโตชัว เช่น Leishmaniasis เมื่อตรวจดูหนังศีรษะจะมีแผลเป็น เนื่องจากผิวหนังและรากผมถูกทำลาย เป็นลักษณะร่วงแบบมีแผลเป็น เมื่อรักษาโรคหายแล้ว ผมจะไม่งอกขึ้นมากอีกเลย

    • จากเนื้องอกหรือมะเร็ง

    เกิดจากเนื้องอกของต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน รูขุมขน หรือมะเร็งของผิวหนัง มะเร็งที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น

    ผมร่วง

    การรักษาผมร่วง 

    • ใช้ยา ส่วนใหญ่การใช้ยาเป็นวิธีการรักษาผมร่วงเริ่มแรก ทั้งยาทาและยาสำหรับรับประทาน ควรมาจากการแนะนำของแพทย์ เพราะมีผลข้างเคียงจากยาที่ต้องระวัง
    • ทำทรีตเมนต์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดรากผมใหม่ รวมถึงบำรุงรักษาเส้นผมที่มีให้คงอยู่
    • ปรับฮอร์โมน ในกรณีร่วงจากภาวะฮอร์โมนบกพร่อง
    • ทำเลเซอร์ เพื่อแก้ปัญหาการเสื่อมสภาพของเส้นผม และช่วยกระตุ้นเส้นผมให้เกิดใหม่
    • ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP (Platelet-rich Plasma) เพื่อกระตุ้นการทำงานของสเต็มเซลล์บริเวณรากผม
    • การปลูกผมโดยวิธีผ่าตัดเจาะรากผมบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณไม่ค่อยโดนผลกระทบจากฮอร์โมน แล้วย้ายรากผมมาปลูกลงในบริเวณที่ต้องการ

    วิธีแก้ปัญหาและดูแลรักษาไม่ให้ผมร่วง

    • หลีกเลี่ยงการมัดผมแน่นเกินไป  พยายามอย่าดึง บิด หรือขยี้ผมแรงๆ
    • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็กและโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
    • เลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะ โดยแชมพูที่ใช้นั้นต้องไม่ก่อให้เกิดการแพ้ การคัน รังแค หรือผื่นบนหนังศีรษะ
    • ผลิตภัณฑ์และเครื่องมือจัดแต่งทรงผมก็เป็นสาเหตุของปัญหาเช่นกัน เช่น เครื่องเป่าลม ที่หนีบผมผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม สารฟอกขาว น้ำยาดัด
    • หลีกเลี่ยงความเครียด ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย หากกำลังเผชิญปัญหาควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

    อาหารที่ช่วยบำรุงผม

    การรับประทานอาหารสุขภาพดีเพื่อให้ร่างกายของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อร่วมกับการออกกำลังกายแล้ว จะช่วยให้ระดับฮอร์โมนของคุณมีความสมดุล ทำให้เลือดไหลเวียนดี และทำให้สุขภาพจิตของคุณดีขึ้น ซึ่งเหล่านี้จะไปลดความเครียดของคุณลง วิตามินและแร่ธาตุบางตัวช่วยเร่งให้ผมงอกได้ดี นั่นคือ

    • วิตามิน B3 และ B12 ช่วยขนส่งเลือดและออกซิเจนไปยังผมและหนังศีรษะ ผู้ที่ขาดวิตามิน B3 อาจทำให้ผมบางและผมร่วงได้
    • โปร-วิตามิน B5 จะช่วยล็อคน้ำและความชุ่มชื้นไว้ให้กับผิว จึงเรียกว่าเป็น มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ และเป็นสารอาหารที่ทำให้เส้นผมและผิวหนังนุ่มขึ้น วิตามิน B5 มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการป้องกันผมหงอกเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น วิตามินนี้จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งคือ “วิตามินต้านความเครียด”
    • วิตามิน B7 มีประโยชน์อย่างมากในการบำรุงเส้นผม ทำให้ผมหนาขึ้น และเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผม วิตามินนี้จะช่วยสร้างเคราตินที่ช่วยลดความแห้งของเส้นผม ทำให้ผมนุ่มขึ้น และทำให้กระบวนการแก่ตัวของเส้นผมช้าลง
    • วิตามิน C ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม รวมถึงช่วยสร้างคอลลาเจนเพื่อทำให้ผมและหนังศีรษะแข็งแรง รับประทานอาหารที่มีวิตามิน C เพื่อช่วยให้ผมของคุณไม่แห้ง หรือบางลง และช่วยป้องกันผมร่วงด้วย

     

    การมีผมร่วงนั้นเป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นทุกๆ วัน ส่วนใหญ่มักเกิดเพียงชั่วคราว สำหรับบางคนอาจรู้สึกเฉยๆ และยอมรับได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดตามธรรมชาติหรือตามวัย ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องทำการรักษาก็ได้ ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกไม่ดี ขาดความมั่นใจ และกลายเป็นความเครียดและวิตกกังวล จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาผมร่วง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุของการเกิดผมร่วงและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด

     

    เรื่องเกี่ยวกับสุขภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจ

     

    ที่มาของบทความ

     

    ติดตามเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ kilmallockgolf.com

    สนับสนุนโดย  ufabet369

Economy

  • ค่าครองชีพ: ฉันจะประหยัดเงินค่าอาหารได้อย่างไร
    ค่าครองชีพ: ฉันจะประหยัดเงินค่าอาหารได้อย่างไร

    ค่าครองชีพ: ฉันจะประหยัดเงินค่าอาหารได้อย่างไร เมื่อราคาสูงขึ้นกัดงบประมาณ หลายคนกำลังตัดใจจากร้านขายอาหารประจำสัปดาห์

    เช่นเดียวกับการซื้อน้อยลง ผู้คนกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้เงินของพวกเขาไปได้ไกลขึ้นและใช้ประโยชน์สูงสุดจากสิ่งที่พวกเขามี BBC พูดคุยกับบล็อกเกอร์การเงินเกี่ยวกับเคล็ดลับที่ทดลองและทดสอบแล้ว

    1. ติดตามสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว

    โรซี่แนะนำให้ดูตู้ของคุณให้ดีก่อนไปช้อปปิ้งแต่ละครั้ง “เราทุกคนรู้ถึงคุณค่าของการจัดทำรายการ แต่ถ้าคุณเพิ่มสิ่งที่มีอยู่แล้วในตู้ คุณก็จะเสียเงินไปกับสิ่งที่คุณไม่ต้องการ” เธอกล่าว

    “ไม่มีประโยชน์ที่จะซื้อซอสพาสต้าเพิ่มอีกโหลถ้าคุณมีห้าขวดในตู้แล้ว”

    เธอจดรายการสิ่งที่อยู่ในตู้ไว้ในสมุดบันทึก ดังนั้นเธอจึงรู้อยู่เสมอว่ามีอะไรอยู่ในตู้เมื่อไปซื้อของ เธอบอกว่าช่วยให้ร้านขายอาหารรายสัปดาห์สำหรับเธอ สามี และลูกชายวัย 1 ขวบลดลงเหลือประมาณ 40 ปอนด์

    2. ไปที่ส่วนที่ลดลงก่อน

    Lynn แนะนำให้เปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้าเมื่อคุณเดินเข้าไปในร้านค้าและมุ่งตรงไปยังส่วนที่ลดลง “ถ้าคุณเห็นบางอย่างในรายการของคุณ คุณสามารถติ๊กออกและคุณประหยัดเงินได้แล้ว” เธอกล่าว

    จากนั้นเธอแนะนำให้ตรงไปที่ส่วนอาหารแช่แข็ง จากนั้นไปที่ทางเดินผลิตกระป๋อง

    อยากถามอะไรนักเขียนเกี่ยวกับอาหาร?
    “เนื้อ ปลา และผักแช่แข็งมักจะมีราคาถูกกว่าตัวเลือกสดเสมอ” เธอกล่าว “ถ้าคุณได้สิ่งที่ต้องการจากที่นั่นก่อนที่จะเดินไปที่แผงขายผักผลไม้สด คุณก็น่าจะประหยัดได้มาก”

    3. ใช้ประโยชน์จากช่องแช่แข็งของคุณให้ดีขึ้น

    ตามองค์กรการกุศลเพื่อความยั่งยืน ครัวเรือนโดยเฉลี่ยทิ้งขยะประมาณ 700 ปอนด์ทุกปีโดยการทิ้งอาหาร ลินน์กล่าวว่าการใช้ช่องแช่แข็งได้ดีขึ้นช่วยให้เธอลดขยะได้อย่างมาก

    “หากสิ่งต่างๆ ใกล้จะถึงวันใช้งานแล้ว คุณควรพยายามแช่แข็งไว้เสมอ” เธอกล่าว “คุณยังสามารถซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้กับวันที่ขายในราคาถูกลงได้ สิ่งต่างๆ เช่น นมและชีส แม้กระทั่งผักและผลไม้ ทั้งหมดนี้สามารถแช่แข็งและเก็บไว้ใช้เมื่อคุณต้องการได้”

    ค่าครองชีพ: ฉันจะประหยัดเงินค่าอาหารได้อย่างไร

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพื้นฐานของการแช่แข็งสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานมาตรฐานอาหาร

    Kate Hall ผู้ดูแลเว็บไซต์ The Full Freezer ใช้ช่องแช่แข็งเป็นปุ่มหยุดชั่วคราวแทนที่จะเป็นโซลูชันการจัดเก็บระยะยาว เธอบอกว่าแม้ว่าอาหารเกือบทั้งหมดสามารถแช่แข็งได้ แต่คุณก็ต้องเปลี่ยนวิธีการใช้

    “คุณไม่สามารถละลายกล้วยหรือสลัดแล้วคาดหวังว่ามันจะเหมือนกับตอนที่เข้าไปในช่องแช่แข็ง” เธออธิบาย “แต่ถ้าคุณคิดว่าจะใช้มันในพุดดิ้ง ซุป หรือในหม้อตุ๋นได้อย่างไร คุณจะประหยัดเงินได้มาก”

    4. เข้าใจบรรจุภัณฑ์

    โรซี่บอกว่าของที่เราซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่ถูกบรรจุหีบห่อเพื่อความสะดวก ไม่ใช่ของเรา “บ่อยแค่ไหนที่คุณซื้อถาดใส่เห็ดที่ห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหารแล้วปล่อยให้มันหลุดออกจากบรรจุภัณฑ์? มันถูกห่อไว้แบบนั้นเพื่อให้ง่ายต่อการขนส่ง” เธออธิบาย

    เธอใส่ถุงกระดาษเมื่อกลับถึงบ้าน แต่บอกว่าแค่แกะห่อพลาสติกออกก็ช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น

    เฮเลน ไวท์ จาก Wrap ซึ่งดำเนินโครงการ Love Food Hate Waste กล่าวว่า มีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถทำได้เพื่อให้อาหารอยู่ได้นานขึ้น โดยเฉพาะผักสดและสลัด ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่มีขยะมากที่สุดในสหราชอาณาจักร

    “เพียงแค่ใส่ม้วนครัวลงในถุงสลัดที่เปิดอยู่เพื่อดูดซับความชื้นจะช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น” เธอกล่าว

    การเก็บผลไม้ไว้ในตู้เย็นจะช่วยให้ผลไม้อยู่ได้นานขึ้น แต่เธอแนะนำให้ตรวจสอบว่าตั้งอุณหภูมิไว้ต่ำกว่า 5°C “เราคิดว่าตู้เย็นหลายล้านตู้ในสหราชอาณาจักรอุ่นเกินไปอย่างน้อย 2 องศา” เธอกล่าว “นี่เป็นข่าวร้ายสำหรับนมและอาหารอื่นๆ ที่เก็บไว้ในตู้เย็น ซึ่งสามารถดับ [เร็วกว่า] เมื่อไม่ได้เก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม”

    5. ใช้ประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญ

    โรซี่พยายามใช้ร้านค้าปลีกขนาดเล็กในท้องถิ่นเพื่อใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี

    “คนขายเนื้อเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีและเป็นคนที่เราไม่ควรกลัวที่จะพูดคุยเรื่องประหยัดเงิน” เธอกล่าว “ถ้าคุณไปที่ร้านขายเนื้อใกล้บ้านคุณแล้วบอกพวกเขาว่าคุณได้เนื้อเพียง 8 ปอนด์ต่อสัปดาห์ พวกเขาจะสามารถบอกคุณได้ว่าจะยืดเงินของคุณอย่างไรโดยการซื้อเนื้อชิ้นที่ถูกที่สุด”

    “พวกเขาคือคนที่ดีที่สุดที่จะแนะนำวิธีการปรุงอาหารและวิธีทำต่อไป”

    ฉันขอแนะนำให้มีเมนูประจำสัปดาห์ เพื่อให้คุณรู้ว่าคุณจะทำอาหาร/เตรียมอะไรสำหรับมื้ออาหารของคุณในแต่ละสัปดาห์ ฉันโพสต์สิ่งนี้บนตู้เย็นและครอบครัวของเรา 5 คนรู้เสมอว่าต้องเจออะไร สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่ยังขจัดความเครียดที่ว่า “จะกินอะไรดี” ฉันรู้ว่าฉันต้องซื้ออะไร และฉันก็ทำตามงบประมาณ เพราะฉันไปซุปเปอร์มาร์เก็ตโดยมีแผน บวกกับฉันตรวจสอบตู้เย็น/ตู้กับข้าวก่อนออกไปซื้อของ มิเชลล์ ลัทช์แมน, เซอร์รีย์

    เคล็ดลับไม่เกี่ยวกับอาหาร แต่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ประหยัดเงินได้มากสำหรับผลิตภัณฑ์ซักผ้าและทำความสะอาด สิ่งเหล่านี้เต็มไปด้วยลูกเล่นให้เราซื้อของเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น คุณไม่จำเป็นต้องใช้ผงซักฟอกแยกต่างหากสำหรับผ้าสี สีซีดจางส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับแสงแดดมากกว่าสารเพิ่มความสดใสในผงซักฟอก เฮเลน โบรอดซิซ, ลิแธม, เซนต์ แอนน์ส

    เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจในเว็บของเรา

    จู๊ด เบลลิงแฮม,แรชฟอร์ดนำสไตล์ฟุตบอลมาสู่ปารีสแฟชั่นวีค

    แมนฯ ซิตี้,เชลซีตกลง 30 ล้านปอนด์สำหรับมาเทโอ โควาซิช

    ลูกทะเลาะกัน ทำอย่างไรดี

    เกียวโตเก่า: คู่มือสำหรับร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรม

    Verstappen ส่งสัญญาณถึงความไม่พอใจของเขา

    ขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com

    แหล่งที่มา https://www.bbc.com/news/business

    สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ kilmallockgolf.com